ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้น แจงหลังโดนปิดงาน เผยบริษัทกำไรมากขึ้น จึงขอโบนัสเพิ่ม ยันชัดไม่เคยขอ 11-12 เดือน เงินเพิ่มเป็นแสน โอดอยากให้เห็นใจ
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคม หลัง บริษัท ไดกิ้น อินตัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกหนังสือแจ้งปิดงานงดจ้างสหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรี และสมาชิก รวม 1,500 คน เนื่องจากไม่สามารถตกลงโบนัส และ ผลประโยชน์กับทางบริษัทได้
ล่าสุด วันที่ 5 ธ.ค.2568 ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ นายมานิตย์ ปิยัง ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้น ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการประกาศปิดงานงดจ้างของบริษัท ความว่า
ในเรื่องโบนัส โดยหลักการเมื่อบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น โบนัสก็ควรเพิ่มขึ้น ที่สหภาพเรียกร้องเพราะบริษัทมีกำไรมากกว่าปีที่แล้ว เราจึงเรียกร้อง 8 เดือน + เงิน 28,000 บาท ส่วนการขึ้นเงินเดือนบริษัทให้เพิ่มมา 3% จากที่เราขอไป 6% ซึ่งเมื่อมองจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น เราอยากได้เพิ่มขึ้น เพราะพนักงานบางคนเงินเดือนหมื่นกว่าบาท มันต้องขึ้นอีกสักหน่อย
ส่วนเหตุผลที่บริษัทอ้างว่าต้องเอาเงินสดไว้บริหารงานต่อไป ในเศรษฐกิจที่อาจไม่ค่อยดี รวมถึงเรื่องคู่แข่งทางการค้า สหภาพมองว่า ถึงบริษัทจะเจอคู่แข่ง แต่กำลังเพิ่มขึ้นทุกปี จึงคิดว่าบริษัทน่าจะจ่ายได้
นายมานิตย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนประกาศปิดงาน เราไม่รู้มาก่อนเลย ก็งงเหมือนกัน มันควรจะคุยกันได้ โดยมีพนักงาน 1,500 คนที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดงาน ซึ่งจะมีการนัดคุยอีกครั้ง ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้
สำหรับเงื่อนไข “ให้ทอง” เป็นสวัสดิการที่พนักงานเซ็นกับบริษัทแบบตัวต่อตัวตั้งแต่เข้างานกับบริษัท สหภาพไม่มีอำนาจ เขาเซ็นตามข้อบังคับ ถ้าไม่ขาด ลา มาสายเลย เริ่มตั้งแต่ 6 เดือน จะได้รับเงิน 500 บาท จนมาถึง 10 ปี จะได้เงิน 10,000 บาท บวก ทอง 3 บาท แต่บริษัทจะปรับเป็นให้เงิน 40,000 บาท พนักงานก็รับไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ถ้าบริษัทจะทำจริงๆ ควรคุยกับพนักงาน เปลี่ยนทองเป็นเงินได้ไหม เนื่องจากทองราคาสูง แต่จะโยนมาให้สหภาพรับแทนไม่ได้ เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างลูกจ้างกับบริษัท ตอนนี้ได้มีพนักงานได้รับผลกระทบจากข้อตกลงนี้ประมาณ 1,300 คน ซึ่งต้องยอมรับว่าทองเป็นการจูงใจให้พนักงานมาทำงานทุกวัน ให้บริษัทมีผลกำไร มีผลประกอบการที่ได้ตามเป้า ถ้ามีขาดงาน หยุดงาน ลาป่วย พนักงานต้องไปเริ่มใหม่ ไล่ขึ้นมาอีก ซึ่งจะทำให้ครบ 10 บอกเลยว่าไม่ง่าย
“ที่ข่าวออกว่าเราไปขอ 11-12 เดือน บวกเงิน 1-2 แสน ด้วยหลักการมันไม่มีอยู่แล้ว ไม่เป็นความจริง รู้สึกว่าทำไมแต่ละคนไม่เข้าใจเรา ไม่เห็นใจเรา น่าเห็นใจพนักงานผลประกอบการบริษัทมันเพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าไม่มีพนักงานผลิต ก็ไม่มีตรงนี้ เข้าใจว่าบริษัทลงทุน แต่เด็กก็ช่วยกันเต็มที่เงินเดือนพนักงานก็ไม่ได้สูงมันไม่พอค่าครองชีพจริงๆ” ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้น กล่าว
