รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเว้นการเก็บภาษีต่างตอบแทน 125 % ที่เพิ่งประกาศบังคับใช้กับจีน ต่อสินค้านำเข้าที่เป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการดำเนินนโยบายแบบที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เมื่อคำนึงถึงผลกระทบที่ดูแล้วน่าจะเป็นลบกับเศรษฐกิจของสหรัฐมากกว่า
สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐ เผยแพร่ประกาศเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 11 เม.ย. โดยอธิบายว่าสินค้าเหล่านี้จะไม่ถูกเก็บภาษี 10% ที่บังคับใช้กับประเทศส่วนใหญ่ รวมถึงภาษีนำเข้าต่างตอบแทนในอัตรา 125% สำหรับสินค้าจีนด้วย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแสดงความกังวลว่า ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากชิ้นส่วนจำนวนมากหรืออุปกรณ์อิเกทรอนิกส์เหล่านี้ถูกผลิตขึ้นในประเทศจีน และถือเป็นการผ่อนปรนอย่างมีนัยสำคัญครั้งแรกในนโยบายภาษีของทรัมป์ต่อจีน
การยกเว้นภาษีดังกล่าวมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 5 เม.ย. โดยการยกเลิกนี้ยังรวมถึงอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ แผงโซลาร์เซลล์ และการ์ดหน่วยความจำ
นักวิเคราะห์ด้านการค้ารายหนึ่งระบุว่า นี่เป็น “สถานการณ์เปลี่ยนเกม” แดน ไอฟส์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีระดับโลกของ Wedbush Securities โพสต์บน X ว่า นี่คือสถานการณ์ในฝันของนักลงทุนด้านเทคโนโลยี การยกเว้นสมาร์ทโฟนและชิปถือเป็นสถานการณ์ที่พลิกเกมอย่างแท้จริงในเรื่องภาษีสินค้าจีน และมันจะทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Nvidia, Microsoft และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวมสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทำเนียบขาวระบุว่า ข้อยกเว้นดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทต่างๆ มีเวลามากขึ้นในการย้ายการผลิตไปยังสหรัฐ
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอเมริกาไม่สามารถพึ่งพาให้จีนผลิตเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ชิป สมาร์ทโฟน และแล็ปท็อปได้ ทั้งนี้ ตามคำสั่งของประธานาธิบดี บริษัทเหล่านี้กำลังเร่งย้ายฐานการผลิตของตนมายังสหรัฐโดยเร็วที่สุด
สตีเฟน มิลเลอร์ รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายทำเนียบขาว โพสต์บน X ว่า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ยังคงอยู่ภายใต้ภาษีศุลกากร 20% ที่มีการบังคับใช้กับจีนซึ่งเกี่ยวข้องกับสารเฟนทานิล
ทรัมป์ซึ่งใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่บ้านพักในฟลอริดา กล่าวกับนักข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขารู้สึกพอใจกับการเก็บภาษีนำเข้าสูงกับจีน และคิดว่าจะมีบางสิ่งที่ดีเกิดขึ้นจากเรื่องนี้ พร้อมกับกล่าวยกย่องความสัมพันธ์ของเขากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนด้วย
ก่อนหน้านี้มีการประมาณว่าราคา iPhone ในสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นมากถึงสามเท่า หากต้นทุนถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภค โดยสหรัฐเป็นตลาดหลักของ iPhone โดยครองยอดขายสมาร์ทโฟนมากกว่าครึ่งหนึ่งในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ iPhone ของ Apple มากถึง 80% ที่ขายในสหรัฐผลิตในจีน ที่เหลืออีก 20% ผลิตในอินเดีย.
