ช้าไม่ได้! พรรคประชาชน เสนอ “นายกฯ อนุทิน” รีบคุย “อันวาร์-ทรัมป์” ชิงความได้เปรียบ – เปิดมาตรการเชิงรุกหยุด “เขมร” คุกคามสันติภาพ

จากเหตุการณ์สะเทือนใจคนไทย (10 พ.ย. 68) ทหารไทยประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด พื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนได้รับบาดเจ็บรวม 4 นาย โดยหนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขวาขาด ซึ่งตามด้วยความเคลื่อนไหวของรัฐบาลไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเตรียมยกเลิกปฏิญญาสันติภาพ ระหว่างไทยและกัมพูชา ที่เกิดขึ้น ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา นั้น

วันนี้ (12 พ.ย. 68) พรรคประชาชน People’s Party โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผย 4 ข้อเสนอเร่งด่วนถึงรัฐบาลไทย ต่อการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ชี้ นายกฯ อนุทิน ต้องเร่งดำเนินการต่อสายตรงถึง อันวาร์ อิบราฮิม (นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย) และ โดนัลด์ ทรัมป์ (ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา) ฐานะสักขีพยานข้อตกลงสันติภาพ เพื่อย้ำจุดยืนของไทย และช่วงชิงความได้เปรียบต่อพฤติการณ์คุกคามสันติภาพของ “กัมพูชา” พร้อมจี้ ทำหนังสือทางการ เรียกร้องสหรัฐฯ พิจารณาระงับความร่วมมือทางทหารกับกัมพูชา

โพสต์ระบุว่า

พรรคประชาชน ขอเสนอมาตรการการทูตเชิงรุกที่จะสร้างความได้เปรียบให้แก่ประเทศไทยในสถานการณ์อันสำคัญเร่งด่วนนี้ คือ

1. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ต้องคุยโทรศัพท์สายตรงกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซียทันที ในฐานะสักขีพยานข้อตกลงสันติภาพ โดยยืนยันจุดยืนของไทยว่า ไทยต้องการรักษาข้อตกลงฯ ให้คงอยู่เพื่อการธำรงสันติภาพระหว่างสองประเทศ และปฏิบัติตามข้อตกลงฯ มาโดยตลอด แต่กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงฯ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบต่อการละเมิดข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ และรัฐบาลไทยขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันตนเอง หากกัมพูชายังมีพฤติการณ์ที่บ่อนทำลายสันติภาพ

2. การดำเนินมาตรการเชิงรุกของไทย จำเป็นต้องเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะโทรศัพท์ไปหาผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย เพื่อชิงความได้เปรียบในการอธิบายจุดยืนและรายละเอียดของสถานการณ์ นอกจากนี้ ไทยยังจำเป็นต้องย้ำว่า ไทยรักษาข้อตกลง ส่วนกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง เพื่อสร้างความชอบธรรมว่าไทยเป็นฝ่ายที่ถูกต้องในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ และมีความชอบธรรมหากต้องยกระดับปฏิบัติการในอนาคต

3. นอกจากนี้ ไทยยังควรทำหนังสืออย่างเป็นทางการ เรียกร้องให้สหรัฐฯ พิจารณาระงับความร่วมมือทางทหารกับกัมพูชา จนกว่ากัมพูชาจะกลับมายึดมั่นในข้อตกลงสันติภาพ ไม่อย่างนั้น ความร่วมมือทางการทหารกับกัมพูชาจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการใช้ทุ่นระเบิดที่ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และทำลายการสร้างสันติภาพอย่างที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการ

4. สุดท้าย รัฐบาลไทยต้องไม่ลืมว่า วิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการจัดการไม่ให้รัฐบาลกัมพูชามีพฤติการณ์เป็นภัยต่อความมั่นคงของไทยอีกต่อไป คือการตัดท่อน้ำเลี้ยงของผู้มีอำนาจทางการเมืองกัมพูชาที่หล่อเลี้ยงด้วยทุนเทาสแกมเมอร์ในกัมพูชาและขบวนการฟอกเงินในประเทศไทย ซึ่งประชาคมโลกพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยในการจัดการอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ และได้ดำเนินการล้ำหน้าไทยไปแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่เคยจริงจังในการสืบหาต้นตอและขยายผลการอายัดทรัพย์เครือข่ายทุนเทา นอกจากจัดอีเวนท์และตั้งคณะกรรมการ รัฐบาลต้องรีบตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และตั้งผู้แทนพิเศษของไทย (Special Envoy) ที่จะทำหน้าที่ประสานกับรัฐบาลนานาชาติในการจัดการสแกมเมอร์และขบวนการฟอกเงิน มุ่งเน้นการสาวถึงต้นตอขบวนการ ไม่ใช่จับคนตัวเล็กตัวน้อย

ทั้งนี้ พรรคประชาชนเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า หากรัฐบาลดำเนินการทางการทูตเชิงรุกอย่างถึงที่สุด จะทำให้ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบในเวทีโลก และสามารถหยุดยั้งพฤติการณ์คุกคามสันติภาพของรัฐบาลกัมพูชาได้ รวมถึงมีความชอบธรรมเพียงพอที่จะอธิบายต่อประชาคมโลก หากจำเป็นต้องยกระดับมาตรการทางทหารเพื่อป้องกันตนเองในอนาคต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *